ทูตสหรัฐฯ ผิดหวังไทยส่งผู้ลี้ภัยชาวจีนกลับประเทศ
วันนี้ (23 พ.ย.2558) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2558 ได้หารือกับเจ้าหน้าที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ถึงกรณีที่ไทยส่งตัวชาวจีน 2 คนกลับไปให้ทางการจีนตามที่ร้องขอ เพราะถูกดำเนินคดีเรื่องการค้ามนุษย์ โดยได้แจ้งกับ UNHCR ว่าจะมีการประสานกับ UNHCR ก่อนหากต้องดำเนินการลักษณะนี้อีก เพราะกรณีนี้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรายงานว่าไม่ทราบสถานะผู้ลี้ภัยของทั้ง 2 คน
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงการหารือกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยในวันนี้ว่าพร้อมตอบทุกข้อสงสัยโดยเฉพาะเรื่องความมั่นคง
ขณะที่นายกลิน เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ระบุหลังพบหารือกับ พล.อ.ประวิตร โดยแสดงความผิดหวังกรณีที่ไทยส่งชาวจีน 2 คนกลับประเทศ เพราะทั้ง 2 คนได้ลงทะเบียนเป็นผู้ลี้ภัยแล้ว พร้อมระบุถึงความสัมพันธ์ทางทหารไทย-สหรัฐฯ ว่ามีความแน่นแฟ้นมายาวนานร่วม 60 ปี และหวังว่าจะเดินหน้าต่อไป โดยยืนยันถึงการฝึกคอบร้าโกลด์ว่าจะเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ซึ่งเป็นรูปแบบพหุภาคีมีหลายประเทศเข้าร่วม ส่วนรูปแบบการฝึกจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ระหว่างการพบหารือกันทั้ง 2 ฝ่ายได้กล่าวถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นที่มีร่วมกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพของทั้ง 2 ประเทศ ที่ได้รบร่วมกันในสงครามต่างๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและภูมิภาคร่วมกัน ขณะเดียวกันก็ได้มีการพัฒนาความร่วมมือในการฝึกทางทหารร่วมกันมาโดยตลอด ซึ่งกระทรวงกลาโหมได้สรุปการหารือในเรื่องต่างๆดังนี้
1.เรื่องการส่งกลับผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งสหรัฐฯ ชื่นชมไทยที่มีความเมตตากับผู้ลี้ภัยมาตลอด แต่ก็มีความกังวลกับการที่ไทยส่งกลับผู้หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ได้รับการรับรองสถานภาพจาก UNHCR แล้ว ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวยืนยันว่า ไทยเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายสากล รวมทั้งยึดหลักสิทธิมนุษยธรรมโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสานทำความเข้าใจกับผู้แทน UNHCR แล้ว พร้อมทั้งได้ใช้โอกาสนี้ชี้แจงให้ข้อมูลกับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ โดยขอให้มีการประสานข้อมูลระหว่างกันมากขึ้นเพื่อลดความคลาดเคลื่อนและให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน
2.เรื่องการต่อต้านการก่อการร้าย โดยเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้กล่าวขอบคุณไทยที่ให้ความร่วมมือในการปราบปรามโจรสลัดและการต่อต้านการก่อการร้ายที่ผ่านมาตลอด โดยเฉพาะความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างกัน
3.เรื่องปัญหาทะเลจีนใต้ ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เชื่อมั่นในบทบาทผู้นำอาเซียนของไทยและหวังว่าความเป็นหนึ่งเดียวกันของอาเซียนและไทยจะช่วยประสานให้มีการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี โดยไม่ใช้กำลังทหารหรือความรุนแรงในการแก้ปัญหา
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังใช้โอกาสนี้สร้างความเข้าใจถึงสถานการณ์ของประเทศไทยและการดำเนินงานตามโรดแมป โดยเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ย้ำว่าปรารถนาที่จะเห็นไทยมีเสถียรภาพและสามารถแสดงบทบาทนำในภูมิภาค ซึ่งหากไทยสามารถพัฒนาไปสู่จุดนั้น ก็จะเป็นตัวอย่างของความสำเร็จในการบริหารกิจการภายในประเทศของตน