ตร.แบ่งกำลังตรวจพื้นที่ สร้างความมั่นใจให้ชาวต่างชาติ
เมื่อคืนทีผ่านมา ตำรวจหลายหน่วยงานกระจายกำลังตรวจหลายพื้นที่ โดยเฉพาะสถานที่สำคัญ เช่น สถานทูต รวมถึงสถานที่เชิงสัญลักษณ์ที่มีการรวมตัวกันของชาวต่างชาติ เช่น ถนนข้าวสาร ซอยนานา ย่านสุขุมวิท เพื่อหาข่าวและเฝ้าระวังเหตุร้าย โดยตำรวจจะประชาสัมพันธ์กับผู้ประกอบการสถานบันเทิง หรือหอพักต่างๆ ที่มีชาวต่างชาตินิยมมาใช้บริการ เพื่อให้เข้าใจในมาตรการการรักษาความปลอดภัยของตำรวจ ซึ่งการเฝ้าระวังเหตุร้าย ตำรวจนครบาลจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องนับจากนี้
ส่วนความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนเหตุระเบิดภายในซอยสุขุมวิท 71 รวมถึงการขยายผลผู้ร่วมขบวนการกับชาวอิหร่านที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ 4 คน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนสอบสวน โดยทุกขั้นตอนจะกระทำอย่างรอบคอบ รวมถึงการติดตามตัวผู้เกี่ยวข้องอีกคนที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิด และเป็นผู้ที่ออกจากบ้านในซอยปรีดีพนมยงค์ 31 ก่อนเกิดเหตุระเบิด ซึ่งตำรวจมีข้อมูลว่าน่าจะเป็นนายนิคคาฟาร์ค จาวัค อายุ 52 ปี และคาดว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเดินทางไปประเทศใด ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังยืนยันถึงมาตรการเพิ่มความเข้มงวดหลังเกิดเหตุระเบิดว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ตรวจสอบความเข้มงวดต่อเนื่องอยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดเฉพาะชาวอิหร่านที่จะเดินทางเข้ามาภายในประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศท่องเที่ยว มีชาวต่างชาติเดินทางเข้าออกจำนวนมาก หากเพิ่มความเข้มงวดเฉพาะชาวอิหร่านเกรงว่าจะกระทบต่อความสัมพันธ์
ส่วนกรณีที่คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (FATF) ขึ้นบัญชีดำประเทศไทย เพราะไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องการปราบปรามการฟอกเงิน และให้การสนับสนุนการก่อการร้ายนั้น เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการฟอกเงินและสนับสนุนขบวนการก่อการร้ายเกิดขึ้น เนื่องจากประเทศไทยไม่มีผู้ก่อการร้าย มีเพียงความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้เท่านั้น