นายโดนัลด์ ทรัมพ์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ว่า สหรัฐอเมริกาจะต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายความสามารถด้านนิวเคลียร์ จนกว่าจะถึงเวลาที่โลกเข้าใจเรื่องของนิวเคลียร์
ข้อความของนายทรัมพ์มีเพียงเท่านี้ ไม่มีการขยายความหรือให้รายละเอียดเพิ่มว่าจะเสริมสร้างและขยายขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์อย่างไร และจะทำเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่น่าสังเกตคือท่าทีของนายทรัมพ์มีขึ้นไม่นานหลังจากที่ผู้นำรัสเซียออกมาพูดในลักษณะคล้ายๆกัน
นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจำเป็นต้องเพิ่มศักยภาพของกองกำลังด้านนิวเคลียร์ ซึ่งนิวเคลียร์ของรัสเซียจะต้องมีความสามารถเหนือระบบต่อต้านขีปนาวุธที่มีอยู่ในปัจจุบันและระบบที่กำลังจะพัฒนาขึ้นในอนาคต
ท่าทีของนายทรัมพ์และปูติน ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าหากทั้งคู่ทำตามนโยบายนี้จริงอาจนำไปสู่การเกิดสงครามเย็นรอบใหม่ และทำให้เกิดการแข่งขันสะสมอาวุธ ซึ่งท่าทีของนายทรัมพ์ตรงข้ามกับนโยบายของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่พยายามทำให้โลกนี้ปลอดนิวเคลียร์
นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับนโยบายด้านนิวเคลียร์ของทรัมพ์ โดยนายเคอร์บีบระบุว่า เขาไม่สามารถเอ่ยถึงมุมมองหรือนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีได้ แต่สิ่งที่เขาสามารถพูดได้คือรัฐบาลชุดปัจจุบันกำลังเดินหน้าที่จะทำให้โลกนี้ปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์ โดยเริ่มต้นด้วยการลดอาวุธนิวเคลียร์ที่มีอยู่ในสต็อค จากนั้นคือการปรับยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง โดยลดบทบาทของอาวุธนิวเคลียร์และขั้นตอนหลังจากนั้นคือการทำข้อตกลงด้านอาวุธนิวเคลียร์กับอิหร่าน