หากลำดับความเห็นกรณีการโยกยย้าย พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ไปเป็นผู้ตรวจราชการเขต 8 คือจังหวัด สงขลา สตูล ยะลา นราธิวาส และปัตตานี โดยเริ่มจากวันที่ 29 สิงหาคม ครม.มีมติย้าย พ.ต.ท.พงศ์พร ไปเป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดนในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาแทบไม่มีความเคลื่อนไหวจาก ผอ.พงศ์พร
ทำให้หลายฝ่ายคิดว่าเรื่องดังกล่าวจบไปแล้ว รวมถึง ครม.ได้แต่งตั้ง ผอ.พศ.คนใหม่มาดำรงตำแหน่งแทน แต่เมื่อวานนี้ มีหนังสือราชการหลุดออกมา 2 ฉบับ ฉบับหนึ่งเป็นหนังสือของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุให้ พ.ต.ท.พงศ์พร ไปเป็นผู้ตรวจราชการเขต 8 คือจังหวัด สงขลา สตูล ยะลา นราธิวาส และปัตตานี หนังสือฉบับนี้คาดการณ์ว่าอาจจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ พ.ต.ท.พงศ์พรเปิดหน้าชน และทำหนังสือโต้แย้ง นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
หนังสือฉบับดังกล่าว สรุปได้ 7 ข้อ คือ ข้อ 1. พ.ต.ท.พงศ์พร ไม่สมัครใจ ข้อ 2 คือ พ.ต.ท.พงศ์พร ยังอยู่ในตำแหน่ง ผอ.สำนักพุทธศาสนา เนื่องจากมติ ครม.ที่ให้ไปช่วยราชการ จะมีผลเมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมฐ ข้อ 3 คำสั่งย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการทั้งที่ยังไม่โปรดเกล้าฯ อาจจะขัด มติ ครม. และอาจจะกระทบพระราชอำนาจ ข้อ 4 สำนักพุทธฯอาจเสียหายเนื่องจากขณะนี้เหลือรอง ผอ.คนเดียวซึ่งจะเกษียณอายุราชการในเดือน ต.ค.นี้ด้วย ข้อ 5. พ.ต.ท.พงศ์พร ตีความว่า คำสั่งไม่มีผลทางกฎหมายจึงยังไม่พ้นจากตำแหน่ง นำมาสู่ข้อ 6 ว่า ถ้าคำสั่งไม่มีอำนาจตามกฎหมายทำไปจะเกิดความเสียหายกับราชการ และข้อสุดท้าย นายออมสิน ในฐานะผู้บังคับบัญชา ยังไม่ได้สั่งเขาโดยตรง
นอกจากนี้ หนังสือที่ถูกมองว่าอาจจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายลงนามโดยนายจิระชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ย้าย พ.ต.ท.พงศ์พร ไปเป็นผู้ตรวจราชการเขต 8 อาจจะมีคำถามว่า เป็นการกลั่นแกล้งหรือเปล่า และเหตุใดต้องเจาะจงที่ ผอ.สำนักพุทธฯ
โครงสร้างของสำนักพุทธ ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี แต่ที่ผ่านอีดตนายกฯหลายคนมักที่จะมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายก ดูแลสำนักพุทธศาสนาเช่นเดียวกับยุคปัจจุบัน ที่รัฐมนตรีออมสิน ยืนยันว่า มีอำนาจย้าย ผอ.สำนักพุทธศาสนา
นอกจากนี้ยังมีความเห็นของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ยืนยันว่า พ.ต.ท.พงศ์พร มีสิทธิ์ในการอุทธรณ์คำสั่งโยกย้ายครั้งนี้ และจะจัดการปัญหานี้ให้เสร็จใน 24 ชม.