ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ปล่อยตัว "เบนซ์ เรซซิ่ง" ยืนยันบริสุทธิ์พร้อมสู้คดี

อาชญากรรม
7 ก.ย. 61
21:33
1,147
Logo Thai PBS
ปล่อยตัว "เบนซ์ เรซซิ่ง" ยืนยันบริสุทธิ์พร้อมสู้คดี
เบนซ์ เรซซิ่ง ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง โดยมีครอบครัวมารอรับกลับบ้าน พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ ขอสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

วันนี้ (7 ก.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอัครกิตต์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ก้มลงกราบเท้า นางสุพรเพ็ญ วรโรจน์เจริญเดช ผู้เป็นแม่ทันทีที่เขาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว จากการควบคุมของเจ้าหน้าราชทัณฑ์ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง

นายอัครกิตต์ ยืนยัน ในความบริสุทธิ์ และขอสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ตามกฏหมาย

ส่วนกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อว่า ไม่มีปัญหาต่อการใช้ชีวิตประจำ แต่การเดินทางต่างๆ อาจจำเป็นต้องขออนุญาตต่อศาลบ้าง และทันทีที่กลับบ้าน ส่วนตัวอยากกินอาหารฝีมือแม่

ทั้งนี้ นายอัครกิตต์ ย้ำว่า จะกลับไปใช้ชีวิตครอบครัวกับแพท ณปภา ตันตระกูล ภรรยา เหมือนเดิม และที่วันนี้ แพท ณปภา ไม่ได้มารับด้วย เพราะติดงานแสดงที่รับไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ส่วนความรู้สึกต่อนายณัฐพล หรือ บอย นาคคำ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ยังคงเป็นเพื่อนและลูกค้ารถยนต์เหมือนเดิม แต่เรื่องคดี ไม่ขอพูดถึงในตอนนี้

ขณะที่ นางสุพรเพ็ญ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ดีใจที่ลูกชายได้รับการปล่อยตัว

ย้อนรอยคดีฟอกเงิน-เครือข่ายยาเสพติด

สำหรับคดีนี้ศาลมีคำพิพากษาให้จำคุก 8 ปี นายอัครกิตต์ ฐานร่วมกันฟอกเงินเกี่ยวกับยาเสพติดเครือข่ายของนายณัฐพล หรือ บอย นาคคำ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด จากกรณีที่มีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง กว่า 30 ครั้ง ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับข้อหาสนับสนุนทำผิดยาเสพติด ศาล ยกฟ้องนายอัครกิตต์

ส่วนนายสรรเสริญ หรือ เน็ต รสานนท์ และ นางสาวอังสุพร หรือ อุ้ม อินา สองสามีภรรยา ศาลพิพากษาให้จำคุกคนละ 24 ปี กับปรับคนละ 400,000 บาท ในความผิดฐานสมคบฟอกเงิน และสนับสนุนนายณัฐพล ในการรับเงินยาเสพติดมาพักไว้ก่อนเข้าบัญชี เช่น คราวละ 15 ล้านบาท หรือ 8 ล้านบาท อันเป็นการทำผิด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522

ต่อมาครอบครัวของนายอัครกิตติ์ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ โดยศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวและตีราคาประกันวงเงิน 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดให้ติดกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ หรือ กำไลอีเอ็ม (EM) กับจำเลย และห้ามมิให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง