ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

นาข้าวหลายพื้นที่ขาดน้ำ หลังฝนทิ้งช่วง

สิ่งแวดล้อม
19 ก.ค. 62
06:27
1,816
Logo Thai PBS
นาข้าวหลายพื้นที่ขาดน้ำ หลังฝนทิ้งช่วง
ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล ขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด หลังพบว่าปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนน้อยกว่าค่าเฉลี่ย ขณะที่ชาวนาหลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำไม่พอหล่อเลี้ยงนาข้าวจากฝนที่ทิ้งช่วงยาวนาน

เมื่อวานนี้ (18 ก.ค.2562) นาข้าวในพื้นที่ ต.เถินบุรี อ.เถิน จ.ลำปาง กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนัก หลังปริมาณน้ำที่ระบายมาจากอ่างเก็บน้ำแม่อาบส่งมาไม่ถึงทุ่งนาของชาวบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำของลำห้วยแม่อาบ ชาวนาบางส่วนต้องปล่อยทิ้งนาข้าวเพื่อรอฝนตก ส่วนนาข้าวที่มีบ่อบาดาล ชาวนาต้องเร่งสูบน้ำบ่อบาดาลขึ้นมาหล่อเลี้ยงต้นข้าว แม้ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องสูบน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

 

ไม่ต่างจากพื้นที่ จ.พิจิตร แม้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่ฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ส่งผลทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่นอกเขตชลประทาน โดยเฉพาะแหล่งกักเก็บน้ำคลองท่ากระดานใน ต.หนองปลาไหล อ.วังทรายพูน มีสภาพแห้งขอด ต่างจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา ที่มีน้ำเต็มพื้นที่กักเก็บ ล่าสุด ฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน เริ่มส่งผลกระทบกับข้าวนาปี มีนาข้าวเสี่ยงที่จะเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

 

 

ชาวนา หมู่ 5 ต.สารจิตร อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย กำลังได้รับความเดือดร้อนจากความแห้งแล้ง อย่างหนักต้องใช้รถแทรกเตอร์ ลากจูงถังบรรจุน้ำขนาดใหญ่ เพื่อนำน้ำมาใส่ในนาข้าว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังโตไม่ให้แห้งตาย เนื่องจากไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ข้าวที่หว่านไว้อายุประมาณ 1 เดือน เริ่มได้รับเสียหาย พื้นดินแห้ง แข็ง เริ่มแตกระแหง ไม่มีน้ำขังหล่อเลี้ยงต้นข้าว หากไม่มีฝนตกหรือมีน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวในช่วงนี้จะทำให้ต้นข้าวตาย ก่อให้เกิดความเสียหายได้

 

 

ด้านนายสุชีพ มีถม ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลปีนี้ พบว่าปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 69 จากเดิม 965 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือเพียง 303 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ปริมาณน้ำเหลือใช้การได้เพียง 909 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 9.4 เท่านั้น

 

 

โดยในช่วงภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นเวลายาวนาน เขื่อนภูมิพลขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดและให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่คิดจะทำการเกษตรในช่วงระยะนี้ จะต้องติดตามข้อมูลการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา และข้อมูลข่าวสารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างใกล้ชิด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง