วันนี้ (9 ก.ย.2563) นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ที่ทางรัฐบาลนำร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เข้าสู่การพิจารณาก่อน อาจเป็นเพราะในประเด็นเรื่องของการสอบสวน ที่เกี่ยวข้องกับอัยการ ซึ่งในส่วนของร่าง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญา จะรอความเห็นจากชุดของนายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชนก่อน
ซึ่งเรื่องดังกล่าว พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน คณะกรรมการฯ ชุดที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะตอนที่คณะกรรมการฯ เสนอเห็นว่า แนวทางในการปฎิรูปตำรวจ ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ควรแก้ไขพ.ร.บ.2 ฉบับประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.ตํารวจแห่งชาติ และร่าง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญา เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องและต้องดำเนินการพร้อมกัน แต่ยังดีที่มีความคืบหน้าเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รอกันมานานกว่า 2-3 ปีแล้ว
สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่ผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา มีทั้งสิ้น 173 มาตรา มีประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ
มาตรา 9 กำหนดให้เจ้าพนักงานหลายหน่วย เป็นตำรวจประเภทไม่มียศ ได้แก่ แพทย์ พยาบาล งานพิสูจน์หลักฐาน งานการศึกษา และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
มาตรา 13 กำหนดให้การจัดทำแผนงานของกองบังคับการตำรวจจังหวัดต้องหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าสถานี และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
มาตรา 14 แบ่งสถานีตำรวจเป็น 3 ระดับ ขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ การเลื่อนตำแหน่งครั้งแรกต้องขึ้นขนาดเล็กก่อน ต่อมาอีกสองปีจึงเลื่อนไปขนาดกลางและใหญ่ตามลำดับ (มาตรา 74)
มาตรา 24 ให้มีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ (คพ.ตร.) มีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนจากตำรวจผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้าย รวมทั้งการลงโทษทางวินัย
มาตรา 36 ให้มีคณะกรรมการรับเรื่องร้องเรียนตำรวจ (กร.ตร.) มีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของตำรวจทั้งที่เกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติหน้าที่และการประพฤติตนที่ไม่เหมาะสมในกรณีต่างๆ
มาตรา 54 การแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่ง ให้กระทำในสายงานเป็นหลัก แบ่งออกเป็น 3 สายงาน ได้แก่ บริหาร อำนวยการ สอบสวน ป้องกันอาชญากรรม และวิชาชีพเฉพาะ
มาตรา 75 กำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วมประเมินผลให้คะแนนการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจ 30 คะแนน และนำไปเป็นคะแนนรวมในการประเมินผลประจำปี ใช้เป็นข้อมูลและหลักฐานประกอบการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี
มาตรา 158 ภายในหนึ่งปีให้ยุบ บก.ตำรวจรถไฟลงทั้งหมด มอบหมายภารกิจให้การรถไฟรับไปดำเนินการแทน
มาตรา 160 ภายในสองปีให้ สตช.ทำความตกลงกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการโอนและมอบหมายงานบางส่วนให้ไป หากทำไม่สำเร็จในสองปี ให้ยุบ บก.ป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลง
มาตรา 161 ภายในห้าปีให้โอนงานจราจรให้ กทม. เมืองพัทยา และเทศบาลนครต่างๆ ให้แล้วเสร็จ
มาตรา 162 ภายในห้าปีให้โอนงานการขออนุญาตและการจดทะเบียนสถานบริการต่างๆ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไป หากทำไม่เสร็จตามระยะเวลา ให้อำนาจการอนุญาตนั้นเป็นอันสิ้นสุดลง