การขยับตัวของรัฐบาลอังกฤษ เกิดขึ้นหลังจาก วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เตือนชาติตะวันตกให้ยุติการส่งขีปนาวุธพิสัยไกล แต่สัญญาณเตือนของปูตินผ่านสถานีโทรทัศน์ทางการรัสเซีย ไม่ได้ทำให้ชาติตะวันตกล้มเลิกความคิดในการช่วยยูเครน
เบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ ยืนยันว่า รัฐบาลเตรียมส่งระบบยิงจรวดหลายลำกล้องรุ่น M270 เนื่องจากยุทธศาสตร์ของรัสเซียที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้อังกฤษต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการสนับสนุนยูเครน ขณะที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตกเริ่มส่งอาวุธร้ายแรงมากขึ้น หลังจากรัสเซียพุ่งเป้าโจมตีภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครน
ระบบยิงจรวดหลายลำกล้องรุ่น M270 ที่อังกฤษจัดส่งให้ยูเครน จะลดสเปกลงด้วยการจำกัดพิสัยการโจมตีจาก 300 กิโลเมตร ให้เหลือ 80 กิโลเมตร เพื่อให้ใช้ป้องกันตัวในแผ่นดินยูเครนเท่านั้น ระบบนี้สามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยิงขีปนาวุธจากพื้นสู่พื้นได้ 12 ลูกในเวลาเพียง 1 นาที
สำนักข่าว BBC รายงานว่า อังกฤษจะจัดส่งให้ยูเครน 3 ชุด และจะช่วยฝึกให้ทหารยูเครนใช้งานได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
การตัดสินใจของอังกฤษ มีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ เตรียมส่งระบบยิงจรวด M142 ไฮมาร์ส ให้ยูเครน จำนวน 4 ชุด เนื่องจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี รับประกันว่า ยูเครนจะไม่นำอาวุธชนิดนี้ยิงโจมตีเป้าหมายในแผ่นดินรัสเซีย
ขณะที่รัสเซีย เตือนว่า การจัดส่งอาวุธให้ยูเครนเป็นการเติมเชื้อไฟ และไม่เป็นผลดีต่อการจูงใจให้ยูเครนเข้าร่วมโต๊ะเจรจา
นับตั้งแต่สงครามเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา 38 ประเทศทั่วโลกให้การสนับสนุนด้านการทหารแก่ยูเครน โดยสหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือยูเครนมากที่สุดไม่ต่ำกว่า 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.5 แสนล้านบาท รองลงมาคือ สหราชอาณาจักร โปแลนด์ อียู เยอรมนี แคนาดา นอร์เวย์ เอสโตเนีย ลัตเวีย ฝรั่งเศส อิตาลีและสาธารณรัฐเช็ก
รูปแบบของความช่วยเหลือมีทั้งการสนับสนุนอาวุธประสิทธิภาพสูง และการให้งบประมาณด้านการทหารแก่ยูเครน ซึ่งความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ และชาติตะวันตก ทำให้สงครามรัสเซีย-ยูเครนมีแนวโน้มยืดเยื้อต่อไปอีกหลายเดือน
อ่านข่าวอื่นๆ
"ปูติน" ชี้ตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย ปมสินค้าแพงทั่วโลก
ครบ 100 วัน "รัสเซียบุกยูเครน" คร่าชีวิตชาวยูเครน 1.5 หมื่นคน