วันนี้ (12 มิ.ย.2566) นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ร่วมกับคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด ข้อมูลอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 39,869 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 52 ของความจุอ่างรวมกัน ยังสามารถรองรับน้ำรวมกันได้อีกประมาณ 36,486 ล้านลบ.ม.
ทั้งนี้ เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำรวมกัน 11,301 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯ รวมกัน ยังรองรับน้ำรวมกันได้อีก 13,570 ล้าน ลบ.ม.
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา วันที่ 12-18 มิ.ย.นี้ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ในส่วนของภาคใต้มีฝนตกหนักในบางพื้นที่
นอกจากนี้ ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ปีนี้ปริมาณฝนรวมทั้งฤดูจะน้อยกว่าปีที่แล้ว ประมาณกลาง มิ.ย.-กลางก.ค.จะเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วง โดยกรม ชลประทาน ได้กำชับให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ ติดตามสภาพอากาศและปริมาณฝนอย่างใกล้ชิด และนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนกำหนดแนวทางการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้ทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อมแหล่งน้ำสำรองเก็บกักน้ำไว้ให้มากที่สุด รวมทั้งการขุดลอกคลองต่างๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำไว้ใช้ และเพื่อลดปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฝนทิ้งช่วง
อ่านข่าวเพิ่ม เช็กสัญญาณแล้ง 4 เขื่อนใหญ่ "ป่าสักชลสิทธิ์" น้ำเหลือแค่ 15%
ยันเขื่อนป่าสัก น้ำเพียงพอ
นายเสริมชัย เชียวศิริถาวร ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 10 กรมชลประทาน เผยสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ว่า ข้อมูลวันนี้ (12 มิ.ย.) มีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 139 ล้านลบ.ม.หรือคิดเป็น 14% ของความจุอ่าง มีการระบายน้ำเพื่อสนับสนุนการใช้น้ำอุปโภคบริโภคในพื้นที่ด้านท้ายวันละ 1 ล้านลบ.ม.
ที่ผ่านมาโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ ติดตามปรากฎการณ์เอล นีโญ่อย่างใกล้ชิด มีการวางแผนบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนปี 2566 ตามนโยบายของกรมชลประทานและปฏิบัติตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 ตามมติครม.อย่างเคร่งครัด
พร้อมกันนี้ ยังได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรใช้น้ำฝนเป็นหลักในการทำนาปี ส่วนน้ำที่ระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศน์ และเสริมน้ำฝนเพื่อการเกษตรเท่านั้น
ขอยืนยันว่าปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ปัจจุบัน อยู่ในเกณฑ์เพียงพอสำหรับอุปโภคบริโภคตลอดฤดูฝนนี้
นายเสริมชัย กล่าวอีกว่า จากการคาดการณ์ของกรมชลประทาน โดยใช้ข้อมูลฝนจากกรมอุตุนิยมวิทยา กรณีใช่ค่าปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ คาดว่าปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ จะมีปริมาณน้ำเต็มเขื่อน 100 % หรือเต็มความจุอ่างฯ ที่ 960 ล้าน ลบ.ม. พียงพอต่อความต้องการใช้น้ำในฤดูแล้งปีหน้า
ทั้งนี้ โครงการส่งน้ำฯ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกร ที่มีพื้นที่นาอยู่ในที่ดอน ที่ยังไม่ได้ทำการเพาะปลูก ขอความร่วมมือให้เลื่อนการทำนาปี 2566 ออกไปก่อนจนกว่าจะมีปริมาณฝนตกอย่างสม่ำเสมอ ตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ประมาณช่วงต้นเดือนส.ค.นี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง