35 องศาเซลเซียส คืออุณหภูมิที่วัดได้ผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันนี้ (6 มี.ค.2567) ที่กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่าเป็นวันที่จะมีค่าดัชนีความร้อนสูงที่สุด โดยภาคกลาง จังหวัดที่ค่าดัชนีความร้อนสูงสุดรายภาค กทม. 48.1 องศาเซลเซียส (ระดับอันตราย)
ไทยพีบีเอสออนไลน์ สอบถามแม่ค้าหลายคนที่ขายของกลางแจ้ง บอกตรงกันว่าสภาพอากาศปีนี้ รู้สึกร้อนอบอ้าวเหนียวเนื้อ เหนียวตัวอย่างบอกไม่ถูก แม้จะเข้าสู่ต้นสัปดาห์แรกของเดือน มี.ค. ยังไม่ถึงเดือนเม.ย.ที่ถือเป็นช่วงร้อนพีคที่สุดของฤดูร้อน
แม่ค้าขายปลาเผาที่ต้องอยู่ท่ามกลางความร้อนคนนี้ บอกว่า ลำพังแค่ความร้อนจากเตาย่างปลาที่ต้องอยู่หน้าเตาวันละหลายชั่วโมงกว่าปลาจะสุกก็เล่นเอาเหงื่อตก วิธีคลายความร้อนนอกจากจะใช้ผ้าขนหนูชุบพอหมาดๆ โป๊ะบริเวณช่วงคอเพิ่มให้รู้สึกสดชื่นแล้ว ยังต้องดื่มน้ำถี่ขึ้น เพื่อคลายความร้อนในร่างกาย
ขณะที่พนักงานออฟฟิส เริ่มต้องพกร่มเวลาเดินออกมาหากินอาหารกลางวัน และหาซื้อเครื่องดื่ม ซึ่งหลายคนบอกว่าฤดูร้อนปีนี้ ห่วงว่าอากาศจะร้อนจัดหลังฟังข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่าจะมีอุณหภูมิสูงถึง 40 กว่าองศาเซลเซียส ดังนั้น จึงเน้นการใส่เสื้อผ้าที่ไม่หนา และขับความร้อนได้ดี
อ่านข่าว รู้จัก "ฮีทสโตรก" ภัยความร้อนเกิน 40 องศาฯ ตายเฉลี่ย 33 คนต่อปี
อากาศร้อนอบอ้าวหลายคนพกร่มกันแดดเวลาออกนอกบ้าน
อากาศร้อนอบอ้าวหลายคนพกร่มกันแดดเวลาออกนอกบ้าน
อากาศร้อนอบอ้าว 6-7 มี.ค.นี้
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่าในช่วงวันที่ 6-7 มี.ค.นี้ ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
ทั้งนี้ ค่าดัชนีความร้อนที่อยู่ในระดับอันตราย ได้แก่ ตาก 39.6 องศาเซลเซียส
บุรีรัมย์ 39.4 องศาเซลเซียส กทม.48.1 องศาเซลเซียส ชลบุรี 51.4 องศาเซลเซียส ภูเก็ต 48.3 องศาเซลเซียส (ระดับอันตราย) โดยค่าดัชนีความร้อน คือ ความร้อนที่ร่างกายมนุษย์ปกติรู้สึกได้ในขณะนั้น ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิอากาศและความชื้น สัมพัทธ์ที่ตรวจวัดได้ ณ เวลานั้น ๆ
จุดความร้อนไทยแตะนิวไฮ 2,230 จุด
นอกจากนี้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี และจากดาวเทียมอีกหลายดวง เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 2,230 จุด ซึ่งข้อมูลจุดความร้อนวานนี้สูงสุดตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูล 1 พ.ย.66
ข้อมูลจากดาวเทียมยังระบุอีกว่าจุดความร้อนที่พบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 883 จุด ตามด้วยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 734 จุด พื้นที่เกษตร 284 จุด พื้นที่เขต สปก. 173 จุด แหล่งชุมชนและอื่นๆ 145 จุด และพื้นที่ริมทาง หลวง 11 จุด สำหรับจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด ได้แก่ ลำปาง 305 จุด เชียงใหม่ 277 จุดตาก 240 จุด
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านพบจุดความร้อนมากสุดอยู่ที่พม่า 4,564 จุด ตามด้วย ลาว 3,184 จุด เวียดนาม 905 จุด และกัมพูชา 828 จุด
อ่านข่าว อาการแบบไหนเสี่ยง "ฮีทสโตรก" ภัยหน้าร้อนที่ต้องระวัง
จ้างคนช่วยดับไฟป่า-สับเปลี่ยนจนท.ลดอ่อนล้า
นายอรรถพล เจริญชั้นษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า สำหรับงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นกว่า 272 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เพื่อลดฝุ่นละออง PM 2.5 ในส่วนของกรมอุทยานฯ 162 ล้านบาท จะนำไปจ้างประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าเท่านั้นมาประจำจุดเฝ้าระวังไฟป่า
กรมอุทยานฯมีจุดเฝ้าระวังไฟป่า 1,580 จุด เฉลี่ยจุดละ 3 คน ให้ค่าตอบแทนเดือนละ 9,000 บาท ในกรอบการว่าจ้าง 2 เดือนครึ่งรวมถึง ค่าใช้จ่ายอื่นๆทั้งการจัดซื้อเครื่องเป่าลม ค่าประกอบเลี้ยง และอื่นๆจุดละประมาณ 100,000 บาทเชื่อว่างบประมาณ ส่วนนี้จะช่วยกระจายแหล่งกำเนิดไฟหรือการควบคุมไฟมีประสิทธิภาพขึ้น โดยเฉพาะการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดไฟ
อ่านข่าว หามส่ง 2 จนท.ดับไฟป่า ฮีทสโตรก-เส้นเลือดสมองแตก อีก 1 ตาย
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า มีความกังวลเกี่ยวกำลังอุณภูมิที่ร้อนและสูงขึ้น อาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานในพื้นที่ดับไฟป่าได้ เช่น ความอ่อนล้าของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานมาตั้งแต่กลางเดือนก.พ.
กรมอุทยานฯ จัดเวลาและแบ่งกำลังพลออกไปทำงานและพักผ่อน 2–3 วัน เพื่อสับเปลี่ยนกำลังลดความเหนื่อยล้าให้ได้มากที่สุดและป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพร่างกายระหว่างเข้าดับไฟป่าในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ
อ่านข่าว ร้อนฉ่า! ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนปลาย ก.พ.นี้ แตะ 43-44.5 องศาฯ
เร่งลดจุดความร้อน-จับตาไฟป่าถึง เม.ย.
ขณะที่ ภาพรวมสถานการณ์ไฟป่าเป็นไปตามแปนที่วางไว้ต้องลดการเกิดไฟป่าลงให้ได้ร้อยละ 50 แต่ขณะนี้สามารถลดไฟป่าลงได้ร้อยละ 51 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจะเดินหน้าลดจุดความร้อน (Hotspot) ลงให้ได้มากกว่านี้
ส่วนการเฝ้าระวังไฟป่าจำเป็นต้องจับตาเป็นพิเศษจนถึงกลางเดือนเม.ย.นี้ใน แม่ฮ่องสอน และเชียงราย หากฝนมาเร็วจะช่วยลดการเกิดไฟป่าลงได้มากและลดระยะเวลาหน้าแล้งปีนี้ไม่ให้ยาวนานลง
อ่านข่าวอื่นๆ
แนะตรวจสอบปางช้างเดวิด เข้าข่าย “ทารุณสัตว์-หลอกลวง” หรือไม่
อัยการสั่งฟ้อง 3 ข้อหา "ศรีพรรณ-พวก 4 คน" ครอบครองปรปักษ์